Home / ข่าวและกิจกรรม / ข่าวสาร / มานเฟรด นอยน์ ประธาน ECF มองปีที่ผ่านมา

มานเฟรด นอยน์ ประธาน ECF มองปีที่ผ่านมา

(หมายเหตุ: ในฐานะที่เป็นสมาชิกวิสามัญของสหพันธ์ผู้ใช้จักรยานยุโรป(ECF) ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยขอนำสาส์นจากนายมานเฟรด นอยน์ ประธาน ECF มาถ่ายทอดให้ทราบร่วมกัน  และในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันส่งเสริมการใช้จักรยานและเป็น Car Free Man ผู้ใช้จักรยานในชีวิตประจำวันด้วยตนเอง บอกได้คำเดียวว่าอ่านแล้ว             “เป็นปลื้ม” ครับ – กวิน ชุติมา กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ผู้เรียบเรียง)

                 ผมรู้สึกยินดีที่ได้พูดกับชุมชนของสมาชิก หุ้นส่วน ผู้สนับสนุน และเพื่อนร่วมงานของ ECF ทุกท่าน ขอให้มีเทศกาลเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและปีใหม่ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จรุ่งเรืองที่สุด  และก็แน่นอนว่าต้องขอบคุณทุกท่านที่ได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ธรรมดาที่จะนำประโยชน์ของการใช้จักรยานมาให้ทุกคน  แม้แต่คนที่ผลักดันเรื่องการใช้จักรยานก็สมควรที่จะได้พักและหยุดคิดใคร่ครวญ  ดังนั้นผมก็หวังว่าท่านคงมีเวลาบ้างในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้านี้ที่จะเติมพลังงานให้ตนเอง

                   ผมเองก็เช่นกัน ขอใช้โอกาสนี้สำหรับการใคร่ครวญของผมเองถึงปีที่ผ่านมาและมองไปข้างหน้าว่าปีใหม่ที่กำลังมาถึงจะนำอะไรมาให้บ้าง  แต่ไม่ว่าจะมองไปข้างหลังหรือข้างหน้า ผมรู้ว่ามีอยู่สองเรื่องที่ทำให้ผมตื่นเต้น กระตุ้นให้กำลังใจผม ทำให้ผมอยากตะโกนว่า “จักรยาน” ใส่ทุกคนที่จะฟัง

ก้าวสู่ปี 2014 มานเฟรด นอยน์ มอบการจัดงาน Velo-city ครั้งต่อไปให้เมืองอเดเลด ประเทศออสเตรเลีย

สิ่งแรกที่บันดาลใจผมคือ ความคิดใหญ่ๆ แนวคิดใหญ่ๆ

         ผมรู้ว่าการใช้จักรยานสามารถทำให้เกิดความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงกับเรื่องท้าทายในระดับโลกที่สังคมของเรากำลังเผชิญอยู่  การใช้จักรยานเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่ได้มาจากเทคโนโลยีที่แสนง่ายและใครๆก็เข้าถึง  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขบวนการของเราได้ทำให้การใช้จักรยานมีบทบาทในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ในด้านสุขภาพ และในด้านการเดินทาง ในปี 2013 ผมรู้สึกว่าเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่เราพยายามสื่อออกไปได้สุกงอมแล้ว คือเราได้นำผลกระทบของการใช้จักรยานไปสู่ระดับสูงสุดด้วยการตีพิมพ์การวิเคราะห์เศรษฐกิจยุโรปที่เกี่ยวกับใช้จักรยานของ ECF เอง ในขณะเดียวกับที่ผู้ผลักดันการใช้จักรยานและนักวางแผนเมืองทั่วโลกต่างพูดถึงเศรษฐศาสตร์จักรยาน (bikenomics) ในฐานะที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเมืองของพวกเขา  ผมได้ทำให้เศรษฐศาสตร์การใช้จักรยาน (cycling economics) กลายเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันกระแสหลักในเรื่องการใช้จักรยานระดับนานาชาติมาตั้งแต่การประชุม Velo-city ในปี 2011 ผมดีใจที่เห็นว่ามันถูกใช้ไปผลักดันการใช้จักรยานในทุกนโยบายอย่างรวดเร็วและอย่างมีประสิทธิผล

         ผมมีความคาดหวังว่างานที่เราเริ่มในเรื่องสิทธิมนุษยชนกับการใช้จักรยานใน Velo-city 2012 ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศคานาดา และได้ทำต่อเนื่องมาในปี 2013 จะเคลื่อนไปในวิถีเดียวกับเศรษฐศาสตร์การใช้จักรยาน  การเดินทางอย่างแข็งขันในฐานะสิทธิมนุษยชนจะเป็นเรื่องหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อองค์การสหประชาชาติที่กำลังมองหาเป้าหมายการพัฒนาใหม่ๆ และผมเชื่อว่าผมจะกลับมา ที่เรื่องนี้อีกหลายๆครั้งในปี 2014 นี้และปีต่อๆไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราจัดการกับประเด็นการใช้จักรยานระดับโลกต่างๆ ในการประชุม Velo-city Global ที่เมืองอเดเลด

       ดังนั้นก็มีเรื่องสำคัญมากมายที่รอท้าทายและทำให้เราตื่นเต้นในปี 2014  อย่างไรก็ตาม การใคร่ครวญของผมสำหรับการสิ้นสุดปีนี้อีกประการหนึ่งก็ชัดเจนเช่นกัน

       เนื้อหาในเรื่องการใช้จักรยานที่ยิ่งใหญ่จะมีผลกระทบเมื่อได้รับการสนับสนุนจากมวลมหาประชาชน ชุมชนที่เราเป็นส่วนหนึ่ง และครอบครัว ECF ของผู้สนับสนุนและผู้ผลักดันการใช้จักรยาน

                 เราได้ก้าวไปอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และทุกครั้งที่เราพบกัน ผมรู้สึกได้ถึงพลัง ความต้องการอันแรงกล้า และความกระตือรือร้นที่ท่านมีในการทำงาน และนั่นได้เสริมพลังให้ทีม ECF ของเราทำมากขึ้น  การมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 10 องค์กรในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของเราในเดือนพฤษภาคม ห้องที่เต็มอัดแน่นไปด้วยผู้นำธุรกิจในการประชุมสุดยอดการผลักดันที่งาน Eurobike  และการประชุมเชิงปฏิบัติการอย่างมืออาชีพที่กระปรี้กระเปร่ากระชุ่มกระชวยสำหรับนักวิชาการและเครือข่ายเมืองของเรา เป็นเพียงตัวอย่างของกิจกรรมระดับสูงที่เราทำในปี 2013

                   และแน่นอนว่า สุดยอดในปี 2013 คือการประชุม Velo-city ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาในกรุงเวียนนากับนักคิด กรรมาธิการของคณะกรรมาธิการยุโรป นายกเทศมนตรี และผู้นำการเมือง ที่ทำงานกับเราทุกคนในการนำพาการใช้จักรยานไปข้างหน้า  และเมื่อเราสิ้นสุดปี 2013 เราก็สามารถมองไปข้างหน้าถึงสามนครใหม่ที่จะผนึกเราเข้าด้วยกันในการใช้จักรยาน  อเดเลด นองเตส และไทเป ทุกเมืองมีคุณสมบัติที่เป็นอัตลักษณ์ที่จะทำให้การประชุม Velo-city แต่ละครั้งเป็นหลักทางพิเศษสำหรับการใช้จักรยาน  ผมหวังว่าคุณคงเอาสมุดบันทึกประจำวันของคุณออกมาและวางแผนที่จะไปร่วมการประชุมนี้ เพราะมันเป็นมากกว่าการประชุม มันเป็นที่ที่เรามาคิดและถกกันว่าเราจะสร้างอนาคตของการใช้จักรยานอย่างไร

                  ดังนั้น อีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณจากพวกเราทุกคนที่ ECF  ขอบคุณสำหรับพลังงานของท่าน ความคิดของท่าน การสนับสนุนของท่าน และมิตรภาพของท่าน ซึ่งผมมองไปข้างหน้าว่าเราจะมาแบ่งปันกันอีกในปี 2014  เราจะเข้มแข็งขึ้นด้วยกัน

มานเฟรด นอยน์

Comments

comments

Check Also

ชมรมฯ ร่วมงาน a day BIKE FEST 2016

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น