Home / บทความ / ไตรกีฬาแรกที่จัดโดยคนไทย ตอนที่ 3

ไตรกีฬาแรกที่จัดโดยคนไทย ตอนที่ 3

ไตรกีฬาแรกที่จัดโดยคนไทย

ผู้อ่านที่ติดตามอ่าน ‘ไตรกีฬาครั้งแรกในไทย’และ ‘ไก่สามอย่าง’ของผมมาแล้วก็จะรู้ว่าผมได้ลงแข่งไตรกีฬาที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2530 ในไทยที่พัทยา และจัดโดยสมาคมไตรกีฬาสมัครเล่นของญี่ปุ่นที่อยากมาจัดงานนี้ที่เมืองไทย  ซึ่งรู้สึกมาจัดหนเดียวแล้วหายไปเลย  ไม่รู้ว่าเข็ดหรือไปหาที่แข่งที่ประเทศอื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หรือหาสปอนเซอร์ไม่ได้ก็ไม่รู้

และผู้อ่านกลุ่มนี้ก็คงรู้อีกเช่นกันว่าผมได้ผลการแข่งขันเป็น DNF คือ Did Not Finish หรือแข่งไม่จบ  ซึ่งที่แข่งไม่จบไม่ใช่เพราะไม่มีแรง  แต่เป็นเพราะดันไปยางแตกเมื่อขี่ไปได้ 19.5 กิโลเมตร  และไม่มียางอะไหล่และสูบติดตัวไปด้วย  จึงต้องออกจากการแข่งขัน

ระหว่างที่เดินจูงจักรยานกลับไปจุดบริเวณจัดงาน ซึ่งห่างออกไปอีก 20 กิโล ท่ามกลางแดดเปรี้ยง  มีรถกรรมการผ่านมา  ผมจึงได้โบกรถขอขึ้นกลับไปด้วย  พอไปถึงจุดเปลี่ยนผ่านประเภทกีฬาหรือ transition zone เห็นนักแข่งคนอื่นที่เข้ามาและลงจักรยานและออกไปวิ่ง  ใจมันอดไม่ได้  ผมเลยออกวิ่งตามเขาไปเพื่อเอาความสนุกเพราะจริงๆผมต้องออกจากการแข่งขันไปแล้ว  และพอวิ่งเข้าเส้นชัยใช้เวลาไป 42:59 นาที   กรรมการญี่ปุ่นโดดเข้ามาข้างๆแล้วประกาศเบอร์ผมให้กรรมการจับเวลาจดเวลาเข้าเส้นชัยของผม   ผมต้องรีบเอามือขยุ้มเบอร์ที่หน้าอก  แล้วบอกว่าผม out of competition หรือออกจากการแข่งขันไปแล้ว   ผลการแข่งขันของผมจึงออกมาเป็น DNF อย่างที่บอก

และก็อย่างที่บอกไว้ในบทความแรกว่า ผมกินกล้วยไป 2 ลูกเล็กๆตอนขึ้นจากน้ำ และอีก 3 ลูกเล็กๆตอนขี่จักรยานไปได้สิบกว่าโล  กะจะเอาเป็นพลังงานไว้ใช้ตอนวิ่ง  แต่ผลกลับไม่ใช่อย่างนั้น ผมเกิดอาการจุกจนต้องเดินอยู่ช่วงหนึ่ง  และทำให้เวลาวิ่งช้าไปกว่าที่ควรหลายนาทีอยู่ 

นอกจากนี้ก่อนการแข่งขันผมต้องการทำเวลาให้ดีๆ  จึงวางแผนใช้เวลาในการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้น้อยที่สุด โดยสวมกางเกงจักรยานทับไปบนกางเกงว่ายน้ำตอนขี่จักรยาน  ซึ่งคิดเอาเองว่ามันน่าจะดีเพราะประหยัดเวลาที่จะเปลี่ยนกางเกงได้   และพอขี่จักรยานกลับมาถึงจุดวิ่งก็ถอดกางเกงจักรยานออกแล้วสวมกางเกงวิ่งทับกางเกงว่ายน้ำไปอีกที  ปรากฏว่าตอนวิ่งสายเชือกกางเกงว่ายน้ำที่มันรัดรูปมากกว่ากางเกงแบบอื่น(เพื่อไม่ให้ต้านน้ำ)จึงรัดเอวแน่นไป  ยิ่งทำให้จุกเข้าไปอีก

คราวหน้า(ถ้ามี)จึงเรียนรู้ว่า สงสัยต้องใช้ผ้าขาวม้ามานุ่งตอนเปลี่ยนกางเกงจากกางเกงว่ายน้ำเป็นกางเกงจักรยาน  และจากกางเกงจักรยานมาเป็นกางเกงวิ่ง    ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ได้ทำแบบนี้มาตลอดที่ลงแข่งไตรกีฬาต่อมาอีกเกือบสิบครั้ง   และเรียนรู้ด้วยว่าต้องไม่กินมากไป แม้จะมีเวลาให้ย่อยก่อนวิ่ง(ซึ่งเป็นกีฬาที่จุกง่ายที่สุด)ก็ตาม

อ่านมาถึงตรงนี้นักไตรกีฬาปัจจุบันคงสงสัยว่าทำไมต้องผลัดผ้าขาวม้า และทำไมต้องเปลี่ยนชุด  ทำไมไม่ใส่ชุดไตรกีฬาที่ใช้ลงแข่งได้ทั้ง 3 ประเภทกีฬาเลย  ก็คงต้องขอตอบว่าไอ้ชุดไตรกีฬาอย่างที่ว่าสมัยโน้นไม่มีครับ ขนาดแชมป์โลกยังไม่มีเลยครับ

หากมีคนถามว่าที่เขียนมานี้จำได้หมดได้ไง  มีข้อมูลละเอียดยิบเป็นนาที  ก็คงต้องตอบว่าจำไม่ได้หรอกครับ  นี่โชคดีที่ไปค้นสมุดบันทึกการซ้อมวิ่ง ซ้อมว่ายน้ำ ซ้อมจักรยานของผม ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 2529 จนถึง 2558 นี่ก็ 29 ปีเข้าไปแล้ว  และทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่เลย  จึงอยากจะแนะนำเพื่อนที่ออกกำลังกายเป็นประจำให้ลองจดบันทึกดู  เวลาผ่านไปนานๆแล้วหยิบมาอ่านจะได้ความรู้สึกเก่าๆดีทีเดียว

ย้อนกลับมาเรื่อง‘ไตรกีฬาแรกที่จัดโดยคนไทย’ที่ตั้งใจจะเขียนวันนี้  แต่ดันออกนอกเรื่องไปเสียไกล

จากการที่ผมได้ DNF นี่แหละที่มันคาใจผมอยู่ตลอด  หลังจากที่ญี่ปุ่นจัดไตรกีฬาแรกของไทยเสร็จในปี 2530  ผมก็คอยเฝ้าดูประกาศข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์  ตามเว็บไซต์ เอ๊ย! ‘โทษที!  ตอนนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ต   ตามประกาศของ ททท. ฯลฯ  ว่าคุณยุ่นจะกลับมาจัดอีกเมื่อไหร่    แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววว่าพี่ยุ่นจะกลับมา   ถ้ามัน(ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นเรียกพวกเขาว่ามันแล้วนะ โปรดสังเกต)ไม่กลับมาแล้วชาตินี้ผมจะปลดไอ้ DNF ที่เป็นตราบาปของผมได้ไง

หงุดหงิดและหันรีหันขวางได้ไม่นาน  ก็เกิดไอเดียผุดขึ้นในสมองอย่างปัจจุบันทันด่วน 

‘จัดเองสิวะ’ผมคิด

 เพราะประสบการณ์การจัดแข่งวิ่งการกุศลของผมก็ทำมาแล้วหลายครั้งหลายสนาม  ยิ่งใหญ่ขนาดเคยเป็นผู้อำนวยการควบคุมการแข่งขัน หรือ Race Director (ไม่ใช่กรรมการอำนวยการการแข่งขันนะครับ  อันนั้นใหญ่กว่า) ของสะพานลอยฟ้ามาราธอนที่มีคนวิ่งเป็นแสนมาแล้ว   คนมาร่วมงานมากขนาดนักวิ่งคนแรกเข้าเส้นชัยแล้วคนสุดท้ายยังไม่ได้ออกจากจุดสตาร์ทเลยก็แล้วกัน  คิดดูว่าคนมากขนาดไหน  และจัดการยากขนาดไหน  งานนี้จึงน่าจะจัดได้น่า

เอาละวะ  เมื่อคิดจะจัด และ(แอบ)คิดว่าจะลงแข่งกับเขาด้วย  จะเป็นทั้ง Race Director และเป็นทั้ง Competitor นี่ละวะ ก็เริ่มวางแผน

พอเริ่มวางแผน  ก็หยุดกึกติดกักทันที  จะไปไงต่อล่ะหว่า  เงินทุนก็ไม่มี  คนช่วยก็ไม่มี  ทีมงานก็ไม่มี  ความรู้ในการจัดก็ไม่มี  คนจะมากี่คนก็ไม่รู้  ที่แขวนจักรยานรูปร่างหน้าตาและขนาดท่อแขวนเป็นไง สูงเท่าไร ก็ไม่ได้จำเอาไว้จากตอนที่ญี่ปุ่นมาจัดแข่ง  (ก็ไม่รู้นี่หว่าว่าตัวเองต้องมาจัดเอง  จึงไม่ได้ใส่ใจจำ)  จะไปจัดที่ไหนก็ไม่รู้  จะจัดที่ทะเลก็ดูปูมน้ำไม่เป็นว่าวันไหนเวลาใดจึงจะจัดแข่งได้ดีที่สุด  จะจัดในน้ำจืดก็มองไม่เห็นว่าจะไปจัดที่ไหน  แม่น้ำเจ้าพระยาไม่กล้าไปจัดแน่ๆเพราะมีอะไรที่ควบคุมจัดการไม่ได้เยอะแยะ  น้ำสกปรกหรือเปล่าก็ไม่รู้  โอ๊ย…อีกมากมายที่ต้องขบคิดและหาทางแก้ไข

โชคดีที่ตอนนั้นผมสนิทกับทีมงานสปอร์ตเอซซึ่งเป็นบริษัทขายรองเท้าและอุปกรณ์กีฬาไนกี้ทุกชนิด  จึงเดินหน้าเข้าไปหาผู้บริหารและขอทุนมาจัดงานแบบดื้อๆ  และเขาก็ดีใจหายตอบตกลงมาแบบง่ายๆเหมือนกัน

จากนั้นผมก็เดินสายคุยกับสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย  สมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย  สมาคมจักรยานสมัครเล่นแห่งประเทศไทย  และสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย  (สมัยก่อนมีคำว่า‘สมัครเล่น’ทุกสมาคมเพราะนักกีฬาเป็นนักกีฬาสมัครเล่นจริงๆ)  ซึ่งก็โชคดีอีกที่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากทั้งสี่สมาคม   กรรมการที่ลงมาเล่นสนุกกับงานครั้งนี้อย่างจริงจังมีอยู่สองท่านที่ผมต้องขอเอ่ยนามไว้  คือ  อาจารย์เสรี ไตรรัตน์ ผู้คร่ำหวอดกับวงการและสมาคมจักรยานสมัครเล่นแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก  และ พ.ต.อ.ศิโรจน์ เพียรสกุล จากสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 

จากนั้นก็มาถึงเรื่องหาสถานที่จัด   ผมไม่กล้าไปจัดในทะเลเพราะไม่มีประสบการณ์ในการจัดไตรกีฬาเลย  จึงอยากจะให้ตัวเองสบายใจหน่อย  กะจะไปจัดในแหล่งน้ำปิด เช่น ทะเลสาบที่ไหนสักแห่ง  แต่ต้องไม่ไกลจากกรุงเทพนัก เพราะไม่เช่นนั้นค่าโสหุ้ยจะสูง  รวมทั้งค่าใช้จ่ายของนักกีฬาจะมากตามไปด้วย  อย่างที่บอกไว้น่ะครับ จะมีมากี่คนยังไม่รู้เลย   ถ้าไปจัดไกลๆแล้วมีคนมาร่วมแค่ 20 คน มันคงจืดสนิทไม่มีน้ำปลาเลยแน่ๆ

ก็โชคดีอีกนั่นแหละ  ไปรู้จักนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ลูกชายเขารู้จักลูกสาวเจ้าของโครงการเมืองทองธานี  ที่มีทะเลสาบน้ำใสแจ๋วอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ  ไม่ไกลจากตัวเมืองกรุงเทพมากนัก (แต่ตอนนั้นที่นั่นก็นับได้ว่า‘บ้านนอก’มากเลยนะครับ  ไปมาทีนึงไม่ใช่ง่ายๆ  ขนาดว่าแท็กซี่ไม่ค่อยยอมไปก็แล้วกันละ)  รวมทั้งการจราจรไม่มาก  และเจ้าของเขายอมให้ใช้สถานที่  เอาลานที่จอดรถริมทะเลสาบ  มากางเต็นท์เป็นสถานที่อำนวยการ   แล้วเอาเขตเปลี่ยนผ่านชนิดกีฬาหรือ transition zone ไว้บริเวณลานจอดรถเดียวกันนั่นแหละ สะดวกดี

ทุกอย่างเริ่มลงตัว  ก็มาถึงอีกปัญหาใหญ่ คือ แล้วจะลงไปวัดระยะทางในน้ำได้ไงวะ  คิดไม่ออก   สุดท้ายผมต้องเอาลูกศิษย์วิศวฯสำรวจจากจุฬาฯ   เอากล้องทีโอโดไลท์ไปส่องวัดและคำนวณออกมาเป็นระยะทาง   แต่พอรู้จุดประมาณว่าโป๊ะควรต้องอยู่ตรงไหนก็มามีปัญหาอีกว่า  พอเอาโป๊ะลงน้ำแล้วก็ไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้ว   แล้วจะรู้ได้ไงว่าโป๊ะมันอยู่ตรงจุดที่ที่ต้องการ สมัยก่อน GPS ก็ยังไม่มี สุดท้ายเปลี่ยนใจหันมาเอาเชือกมาวัดบนบกตามความยาวที่ต้องการ  แล้วเอาเรือลากไปให้ตึง  เพื่อจะกำหนดจุดวางโป๊ะ  ไอ้เชือกเจ้ากรรมดันมายืดเมื่อโดนน้ำ  แถมเวลาจะตรึงโป๊ะให้อยู่กับที่ที่ต้องการ  มันก็ไม่ง่ายเหมือนเขียนในกระดาษ  เพราะต้องทิ้งสมอลงไปเกาะพื้นดินใต้น้ำเพื่อยึดโป๊ะ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายดังใจนึกอีกนั่นแหละ

ผมจะไม่บอกหรอกนะครับว่าสุดท้ายทำอย่างไร  แต่เพียงแต่อยากจะบอกว่าการเข้ามาจัดไตรกีฬาเป็นคนแรกของประเทศนั่น  ไม่ง่ายเลยครับ

อย่างไรก็ตาม  ปัญหามีไว้แก้  ไม่ได้มีไว้แบก  สุดท้ายเราก็จัดมันจนได้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2531 ด้วยระยะทางว่ายน้ำ 1,000 เมตร  จักรยาน 40 กิโลเมตร และวิ่ง 11.4 กิโลเมตร  ถามว่าทำไมไม่วิ่ง 10 กิโลเมตรตามระยะทางมาตรฐาน   คำตอบคือถนนที่เราจัดให้วิ่งเป็นวง loopมันกำหนดให้ต้องเป็นเช่นนั้น  หากเปลี่ยนเส้นทางมันก็จะเหลือ 7-8 กิโลเมตร  หรือไม่ก็ไปถึง 15 กิโลกว่าไปโน่น  ซึ่งดูแล้วคงไม่เหมาะ  และในสมัยโน้นคนเล่นไตรกีฬาร้อยละ 90 เป็นนักวิ่งมาก่อน  การเพิ่มระยะทางวิ่งอีกเล็กน้อยคงไม่มีใครบ่น  ผมแอบนึกแบบเข้าข้างตัวเองนิดหน่อย  (ฮา)

และแล้วผมก็ได้เป็นทั้งประธานฝ่ายควบคุมการแข่งขัน  และผู้ลงแข่งขันในไตรกีฬาที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยคนไทย  และได้เข้าเส้นชัยด้วยเวลาดีพอตัว คือ 2 ชั่วโมง 50 นาที   ส่วนรูปประกาศนียบัตรเข้าเส้นชัยของผมหาไม่เจอ  เลยเอาของ นพ.กฤษฎา บานชื่น มาให้ดูเล่น  ซึ่งจะเห็นชื่อผมลงนามกำกับคู่กับ พล.ท.วัฒนชัย วุฒิศิริ ประธานกรรมการจัดการแข่งขัน  และ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิช ประธานกรรมการอำนวยการการแข่งขัน ด้วย

เย้ … ปลด DNF ออกจากหัวใจกลัดหนองได้แล้วครับ … ไชโย้

บทความโดย ธงชัย พรรณสวัสดิ์

Comments

comments

Check Also

ไฟติดล้อจักรยาน เพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสนุก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น