Home / ข่าวและกิจกรรม / ข่าวสาร / สองล้อ พาท่องโลก

สองล้อ พาท่องโลก

กระแสจักรยานสองล้อปีนี้ อาจไม่เพียงเป็นแค่แฟชั่น เมื่อใครๆก็ชวนกันขี่จักรยาน มีกิจกรรมเที่ยวไปกับนักปั่น ชมเมือง เพลินธรรมชาติ หรือรณรงค์รักษ์โลก ประหยัดพลังงาน กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ออกกำลังกาย ฯลฯ คนขี่ก็สนุก คนจัดก็พอใจ คนขายจักรยาน ขายเสื้อผ้า อุปกรณ์ เพื่อกิจกรรมสองล้อพาท่องโลกล้วนได้ประโยชน์จากรถสองล้อไร้น้ำมันคันเล็กๆมากโข

ล่าสุดในงาน บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 3 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่อิมแพค เมืองทองธานี งานมหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น ภายใต้แนวคิด Get Ready to Ride แสดงความเป็นตัวตนบนถนนของคุณ ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมสนับสนุนกับผู้ประกอบการจักรยาน คนขี่ คนขาย มาร่วมงานอย่างสนุกสนาน เพิ่มกระแสตื่นตัวนักปั่น นักกิจกรรม ที่ใช้จักรยานเป็นสื่อมากยิ่งขึ้น

ในเมืองไทย กิจกรรมจักรยานพาเที่ยวเกิดขึ่นนานแล้ว มักชวนกันปั่นไปตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในเมืองและตามชนบท ปั่น 2 ชั่วโมง ครึ่งวัน ทั้งวัน หรือหลายๆวัน นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศรู้จักดี มีบริษัททัวร์หลายแห่งจัดทัวร์จักรยานโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีบริการจักรยานพาเที่ยว ปั่นไป ชมวิวไป หรือพักค้างแรมในโรงแรม กางเต็นท์ แล้วไปต่อเหนื่อยนักปั่นไม่ไหวก็มีบริการรถตู้ตามเก็บ เป็นอีหนึ่งวิถีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้ออกกำลังขา ได้เพื่อน ได้อากาศบริสุทธิ์

จักรยานทัวริ่งกำลังอิน แต่ถ้าจัดประเภทท่องเที่ยวด้วยสองล้อ ปั่นกันลูกเดียว ไม่ต้องพึ่งรถตู้ตามเก็บ ต้องถามธานินทร์ ฤตวิรุฬห์ (Rit Bicycle) ที่ชวนนักปั่นท่องโลกเพียงสองล้อกับปลีน่อง จัดทัวร์ด้วยจักรยานล้วนๆไม่ง้อพาหนะอื่นๆ

“แรกเริ่มเลย ผมท่องเที่ยวอยู่ก่อนแล้วเขียนหนังสือด้วย ทำมา 19 ปี จนมาเมื่อสองปีก่อนเริ่มสร้างแบรนด์จักรยานของตัวเอง ซึ่งแต่แรกผมนำเข้าจักรยานแบบทัวริ่งจากต่างประเทศ มีลูกค่ามาซื้อจักรยานแล้ว เราก็พาไปขี่เที่ยว ต่อมาก็ตัดสินใจทำแบรนด์ของตัวเองเพราะอยากได้รุ่นหรือยี่ห้อที่ต้องการ เราสามารถเลือกวัสดุ อะไหล่ เติมลูกเล่นตามที่ต้องการได้ หรือลูกค้าเราอยากได้อะไรเพิ่มเราจัดให้ได้ ทำปีแรกขายได้ 300 คัน ปีนี้เลยตั้งเป้าไว้ 500 คัน”

จักรยานทัวริ่ง แตกต่างจากรถจักรยานทั่วไปอย่างไร

‘มีสองล้อเหมือนกัน แต่รถทัวริ่งเป็นอีกดีไซน์หนึ่งแตกต่างที่มุมองศาของรถ เช่น รูน็อตที่เพิ่มขึ้นมาเอาไว้ใส่กระเป๋า เป็นอุปกรณ์เสริม อย่างจักรยานเสือหมอบเขาต้องการความเบารถก็ไม่มีรูน็อต วัสดุเป็นคาร์บอนทำให้เบาลง แต่ถ้าเป็นทัวริ่งต้องเพิ่มตะแกรง ต้องมีความแข็งแรงทนทาน ผมก็เลยเจาะกลุ่มรถทัวริ่งโดยเฉพาะ’

เที่ยวไปขายไป ..มียอดขายขนาดนี้แสดงว่ามีสมาชิกนักปั่นอยู่ไม่น้อย คุณธานินทร์เล่าต่อว่า

“จักรยานทัวริ่งของเราบริการฟูลเวอร์วิส จองโรงแรมที่พัก แต่ไม่ได้นั่งรถเที่ยว รถเป็นแค่พาหนะช่วยบางโอกาส บางคนคิดว่าขี่ครึ่งวันยังไม่ถึงโรงแรมก็ร้อนขี่ไม่ไหว ก็ขึ้นรถเซอร์วิส มีขนม ผลไม้ น้ำ แต่ถ้าเป็นการขี่สำหรับสมาชิกบางคนเป็นทัวริ่งจริงๆ ที่ไม่มีรถเซอร์วิส คิดว่ายังไม่มีบริษัททัวร์ของคนไทยทำ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาตั้งบริษัททัวร์ในเมืองไทยซึ่งเขาโตมากเป็นการท่องเที่ยวด้วยจักรยานโดยตรง ต่างประเทศเขาส่งเสริมแต่ของเรามองว่าทัวร์จักรยานเล็กกว่ากอล์ฟเล็กกว่าไปดำน้ำ ตรงกันข้ามกับฝรั่ง เขาได้เปรียบที่ภาษาหรือเป็นคนชาติเดียวกัน เช่นเป็นเยอรมัน สเปน คุยกันง่าย ไว้ใจกัน เขาก็ได้ลูกค่าต่างชาติเข้ามา”

หากตอนนี้ กระแสจักรยานทัวริ่งจริงๆปั่นกันไม่ง้อรถเซอร์วิส เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสนใจมากขึ้น ‘ที่เราอยู่ไดทุกวันนี้เป็นลูกค้าเก่าและจากสื่อที่ให้เครดิต ลูกค้าที่เป็นวีไอพีมาแล้วมาอีก บางคนมากับเราทุกๆปี ละครั้ง กลุ่มทัวร์ของเราชื่อ bike and travel (cyclingthailand.com) จัดทัวร์ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปคนเดียวก็มาได้แต่ราคาต่างกันนะครับ แต่ละโปรแกรมเริ่มตั้งแต่ 1-30 คนร้อยคนก็ได้ แต่กรุ๊ปใหญ่ๆนานจะมีสักครั้ง ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ป 4-5 คน นักธุรกิจก็มี สามี ภรรยา เช่น นักธุรกิจมาประชุมสัมมนาเสร็จอยากพักผ่อนสัก 1 อาทิตย์ เขาขอมาทัวร์กับเราเลย เขาไม่อยากไปรอกรุ๊ปทัวร์ มีเวลาน้อย หรือนิสัยอาจไม่เข้ากับกลุ่ม คือเขาพร้อมจะจ่าย แล้วพอเขารู้จักเรา รู้ว่าเราทำทัวร์มีคุณภาพ รู้จักเส้นทาง มีข้อมูล มีปะสบการณ์ ทัวร์จักรยานก็มีเลือกหลายแบบ ตั้งแต่ 1 วันจนถึง 1 เดือนก็มี’

เมื่อใจรักให้จักรยานพาเที่ยวแล้ว ร่างกายต้องพร้อมแค่ไหน

‘จักรยานทัวริ่งก็เหมือนรถทั่วไปนะครับแต่มีตะแกรงหน้าไว้แขวนกระเป๋า เก็บของ มีกระเป๋าข้างรถเสื้อผ้าแล้วแต่เราแต่ต้องขยันสักหน่อย ไม่ใช่ไป 7 วัน เอาเสื้อผ้าไป 7 ชุด อาจไปแค่ 3 ชุดแล้วซัก การไปทัวริ่งเป็นการฝึกวินับที่ดี คือถึงที่พัก อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ามีเวลาไปเดินเล่น ปั่นจักรยานเล่นรอบหมู่บ้าน กินข้าว ตื่นเช้ามาเก็บของไปต่อ ได้ฝึกหลายอย่าง อาหารผมจะไม่ทำเองถือเป็นกฎของผมว่าไปเที่ยวเมืองไหนควรไปกินอาหารที่นั่น ไม่งั้นอยู่บ้านกินอาหารที่บ้านหรือวิวสวยๆก็เปิดอินเทอร์เนตดูเอาไม่ต้องไป….’

ใครเคยนั่งรถเที่ยวหวานเย็นหรือเที่ยวสบายๆเหงื่อไม่หยด ต้องอึ้งกับเส้นทางท่องเที่ยวเปิดโลกด้วยสองล้อ เจ้าของทัวร์สองล้อยกตัวอย่างรูทสองล้อที่ไปทั่วประเทศได้ไม้องจ่ายค่าน้ำมัน

‘ยกตัวอย่าง ปั่นไปภาคใต้เริ่มตั้งแต่อัมพวา เลาะอ่าวไทยลงใต้ ไปสุราษฎร์ฯ เขาสก อ่าวลึก อ่าวนาง มีตั้งแต่ 6-12 วัน หรือมากกว่า หรือขี่จากอัมพวาไปจบที่ชุมพรแล้วขึ้นรถไฟกลับ ถ้าไปยาวสิบกว่าวันถึงกระบี่ส่วนใหญ่จะขึ้นเครื่องบินกลับ บางทีเป็นลูกค้าต่างชาติ เขาก็บินกลับประเทศเขาเลย เรามีเส้นทางทั่วประเทศ เช่น ภาคอีสานก็ไปได้ช่วงฤดูฝน หรือขี่รอบภาคเหนือเป็นวงกลม เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หรือเริ่มเชียงใหม่จบเชียงใหม่แต่เป็นวงกลมไม่ซ้ำเส้นทางเดิม บางกลุ่มขี่ยาวเหนือจรดใต้ เคยมีมาเป็นกลุ่มใหญ่ราว 20 คน เป็นชมรม บางกลุ่มขี่เล่น เอาจักรยานมาเอง บางคนขี่จริงจังเพราะเขาอยากขี่รถของเขา บางคันราคาเป็นแสน 3 แสนก็มี’

ปั่นทั่วไทยแล้ว ขาปั่นเริ่มขยับไปต่างประเทศคนจัดก็เริ่มจัดทัวริ่งจริงจัง ไม่มีรถตู้ตามเก็บ

‘คนจะไปทริปหลายวันกับผมจะคุยกันก่อน ไม่ใช่อยู่ๆมาเลย คือถ้าไม่ไหวต้องโบกรถเอง รถโดยสารหรือรถชาวบ้าน ไปที่พักก่อนแล้วเราตามไปสมทบ เคยเจอบางทีจะไปอยุธยา ไปถึงแค่รังสิตหมดแรงเขาก็โบกรถไปเองแล้วเราไปเจอเขา แต่ส่วนใหญ่ที่มาจะรู้ครับว่าจะไปไหน มีบางคนที่ประสบการณ์ยังไม่พอหรือร่างกายไม่ฟิตพอ หรือมาสัมภาระเยอะแล้วหนักไปไม่ไหวขี่แล้วเหนื่อย ลำบากกว่าคนอื่นที่ขี่กันสบายๆถ้าร่างกายเราไม่พร้อมไปถึงที่พักก็หมดแรง นั่นคือประสบการณ์ในการขี่ทัวริ่งยังไม่มี ต้องค่อยๆฝึก อาจเริ่มในประเทศแล้วค่อยๆเพิ่มเส้นทาง จากทริปสั้นๆไปทริปยาว เปลี่ยนรูปแบบจากนอนโรงแรมไปนอนเต็นท์บ้าง แล้วเรื่องการเตรียมอุปกรณ์อีกด้วย อุปกรณ์พร้อมจักรยานพร้อมคือดีไปแล้ว 50%’

เจ้าของทัวร์บอกว่า

‘ทัวริ่งผมมี 2 รูปแบบ งานทัวร์มีรถเซอร์วิส กับทัวริ่งที่ไม่มีเซอร์วิส ทุกคนจะรู้ว่าต้องช่วยเหลือตัวเอง แต่เราก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยต้องช่วยตัวเองก่อน เช่น ซ่อมรถเป็น ปะยาง สูบลม บางครั้งไปอยู่ข้างหลัง ยางรั่ว คุณต้องเปลี่ยนยางเป็นนะ แต่ถ้ามีปัญหาเกียร์เรื่องอะไร เราช่วยกัน คนไทยทัวริ่งจริงจังเยอะแล้วครับ แต่คำว่าเยอะไปเทียบกับต่างชาติถือว่าน้อย แต่เริ่มมีมากขึ้น ผู้ชายเยอะ ผู้หญิงก็มีแต่น้อยแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเส้นทางต่างประเทศไปลาว เขมร เวียดนาม เนปาล อินเดีย เช่น ปั่นไปเสียมเรียบ เลาะจากเขาใหญ่นครนายก นั่งรถไปปราจีนก่อนแล้วเริ่มปั่นไปสระแก้วเข้าเขมร หรือถ้าเป็นเขมรตอนใต้เริ่มที่จันทบุรีเข้าโป่งน้ำร้อน เมืองไพลิน พระตะบอง เอารถลงเรือไปเสียมเรียบ เส้นทางลาวบางครั้งบินไปแล้วไปปั่นที่หลวงพระบาง หรือขี่จากเวียงจันทน์ขึ้นไป หรือขี่จากห้วยทราบ เชียงของ ก็ได้ ถ้าเป้นทางเหนือจะขี่จากเชียงราย หรือเชียงใหม่แล้วข้ามไป แต่ถ้าเป็นทริปเวียดนาม คือบินไปแล้วไปขี่ที่โน่นเลยเพราะมันไกล’

มีสองล้อไปไหนก็ได้ สะดวก ปลอดภัย ในประเทศสังคมนิยมรอบบ้านเราก็ไปได้

เหมือนบ้านเราทุกอย่าง ไม่ต้องขออนุญาต ไปได้ทุกเส้นทาง มีพม่ายกเว้นบ้าง เป็นกฎของเขาอยู่แล้วไม่เกี่ยวกับจักรยาน คือไปเที่ยวปกติถ้าพื้นที่ไหนห้ามแล้วไปไม่ได้ กฎการขี่ ประเทศเพื่อนบ้านเรา พม่า ลาว ชิดขวาหมด มีเนปาล ชิดซ้าย เส้นทางทัวร์คือบินไปกาฐมัณฑุ เที่ยวก่อน 2 คืน นั่งรถบัสไปจิตวัน เที่ยวกิจกรรมในอุทยานขี่ช้าง ล่องเรือ เดินป่า เสร็จแล้วเริ่มปั่น ปั่นจากจิตวันไปเอชทาด้า 70 โล แล้วปั่นขึ้นเขาดามัน 70 โล แล้วลงเขาเลาะหมู่บ้านไปเรื่อยๆ วันละ 30 โล แล้วกลับเข้ากาฐมัณฑุ แล้วก็ออกไปข้างนอก ปั่นไปเมืองบนภูเขารอบๆ กาฐมัณฑุ ซอกแซกตามหมู่บ้าน ปลอดภัยครับ

เวลาปั่นแล้วหิวข้าวหิวน้ำ อยากเด็ดดอกไม้

ชาวบ้านเค้ามีร้านค้า แต่ถ้าทริปที่ชนบทสุดจริงๆ มีทริปเนปาลครั้งหลังที่เพิ่งไปมากกินมาม่า ง่ายที่สุดคือมีผัก ไข่ เนื้อ ใช้เส้นสำเร็จรูป คือมาม่าบ้านเรา เอาเส้นไปต้มใส่ผัก หมู ไก่ อยากเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางจริงๆว่าไปแล้วหาง่ายนะ บ้านชาวบ้านทุกคนใช้ได้หมดแล้วส่วนใหญ่ห้องน้ำเค้าอยู่นอกบ้าน ผู้หญิงก็ง่ายนะ ผู้ชายไปข้างทาง ชาวบ้านจะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวอยู่แล้วเพราะเป็นรายได้หลักของประเทศเขา ต่างประเทศที่ไปไกลกว่านั้นเคยไปอินเดีย

แต่ที่จะไกลกว่านี้ปีนี้ตั้งเป้าไปยุโรป เดือนสิงหาจะไปขี่รอบเทือกเขาแอลป์ เส้นทางคือบินไปสวิสแล้วขี่เลาะรอบเมือกเขาแอลป์ เป็นครั้งแรกเลยครับ เราไปเพื่อขี่ทดสอบรถเรา ไปเที่ยวด้วย ไปโชว์รถด้วย โดยไปจบโปรแกรมที่งาน ‘ยูโร ไบค์’ เป็นงานจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในเมืองเล็กๆ ในเยอรมนีตอนใต้ จะเอาจักรยานแบรนด์เราไปโชว์ ผมได้บูธเล็กๆที่จะเอาจักรยานไปโชว์ร่วมกับของโรงงานที่ผลิตจักรยานให้เราบอกว่าเป็นแบรนด์ไทย

ทัวร์จักรยานถูกกว่าไปทัวร์ทั่วไปเพราะไม่ได้นอนโรงแรมดีๆของเราง่ายๆกางเต็นท์นอนบ้าง ในยุโรปที่มีกางเต็นท์อยู่แล้ว จะแพงค่าเครื่องบินไปกลับประมาณสีหมื่นห้า เมือกเขาแอลป์ ผมคาดว่าไป 3 สัปดาห์ เพราะค่าตั๋วแพงอยู่แล้ว ไปแล้วให้คุ้มค่าจะได้เห็นหลายๆอย่าง ในยุโรปแต่ละประเทศ สวิส อิตาลี เยอรมนี วัฒนธรรมต่างกันเลย ความปลอดภัยก็สูง ผมถือว่าเราไปขี่จักรยานความรู้สึกคือเราไปเป็นมิตรอีกอย่างเราไม่ได้อยู่ให้เขาเห็นนานๆพอเห็นวันนี้วันรุ่งขึ้นปั่นไปแล้ว

เป้าหมายของผมวางไว้ทั่วโลก จะไปญี่ปุ่นอีกสองปีข้างหน้า ต่อไปจะไปนอร์เวย์ ฟินแลนด์ นอร์ดิกคันทรี่ตั้งใจจะไปพิชิตนอร์ธแคป ขั้วโลกเหนือ แล้วจะไปอเมริกา อาจปั่นจากแคลิฟอร์เนียไปอลาสก้า วางแผนเอาไว้แล้ว ส่วนเทือกเขาแอลป์ 21 วัน คาดว่ามีคนไปครับคนสองคนก็ไป…

เป็นเส้นทางที่วางแผนกันแล้ว แต่เพื่อนขาปั่นจะมีกี่คน กำลังรอ

เส้นทางปั่นรอบเทือกเขาแอลป์วางไว้แล้วคือเครื่องลงซูริค แล้วปั่นจากสวิสมาอิตาลี ไปออสเตรียข้ามไปเยอรมนี กลับมาขึ้นเครื่องที่สวิส เป็นการปั่นทัวริ่งล้วนๆไม่มีรถเซอร์วิส รถที่เอาไปมีกระเป๋าติดรถ มีเส้นทาง เราศึกษาก่อน นอนไหน เดี๋ยวนี้ง่ายครับ มีจีพีเอส ดาวเทียม กุเกิลแมพ แต่เส้นทางนี้ไม่มีรถเซอร์วิสเลย ช่วยตัวเองทั้งหมด ถ้ามีปัญหาคือซ่อมรถเองแต่ถ้าเราเตรียมรถมาดีปัญหาน้อย จากประสบการณ์ 4 ปี ที่ขี่ทัวริ่งจริงจัง ผมไม่เคยมีปัญหาเลย

อยากปั่นข้ามทวีปแค่สองล้อพาไปถึง ชมดอกไม้ผลิกลางฤดูร้อนที่ยุโรป ทำอย่างไร คนจัดทัวร์ก็บอกแค่

“สุขภาพดี มีความรู้เรื่องจักรยาน มีอุปกรณ์ที่พร้อม มีเวลา และมีเงิน”

เรื่องโดย : เอื้อพันธุ์  ศรีสุนทร

ภาพ      : ritbicycle

จาหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันอาทิตย์) อาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2557

Comments

comments

Check Also

ชมรมฯ ร่วมงาน a day BIKE FEST 2016

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น