ลองมาคิดดูนะครับว่า ในวันหนึ่งๆนั้น คุณใช้เวลา “นั่ง” มากเพียงใด คนจำนวนมากตื่นเช้าขึ้นมาก็มานั่งกินอาหารเช้า แล้วนั่งรถไปทำงาน ถึงที่ทำงานก็นั่งทำงานอีกหลายชั่วโมง พักกลางวัน กินอาหารก็นั่งอีก แล้วกลับมานั่งทำงานอีกหลายชั่วโมง ก่อนจะนั่งรถกลับบ้าน แล้วก็มานั่งกินอาหาร นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งดูโทรทัศน์หรือนั่งอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกมหรือเฟสบุ๊ค รวมกันแล้วคุณนั่งวันละมากกว่า ๑๒ ชั่วโมง หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตคุณในแต่ละวัน !!! บางคนนั่งมากถึงร้อยละ ๗๐ ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวันด้วยซ้ำไป ถ้านับรวมเวลานอนด้วยจะพบว่า เรามีเวลาเคลื่อนที่ มี “กิจกรรมทางกาย” น้อยมาก บางคนเพียงร้อยละ ๔-๕ เท่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ทำให้เรามีแบบแผนการใช้ชีวิตแบบไม่เคลื่อนที่มากยิ่งขึ้นทุกที
![]() |
![]() |
| การขี่จักรยานในวันหยุดพักผ่อน | ด.ต.เชาวฤทธิ์ สุคนธา กับจักรยานที่ขี่ไปทำงาน
(ภาพประกอบจาก http://www.gotoknow.org/posts/118299) |
มีงานวิจัยมากมายที่พบว่า วิถีชีวิตแบบนี้ทำให้เราทั้งอายุสั้นลงกว่าที่ควรจะเป็นและคุณภาพชีวิตลดลง เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคเบาหวานกับโรคอ้วนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าร่างกายของมนุษย์เราไม่ได้รับการออกแบบมาให้นั่งเป็นส่วนใหญ่ของชีวิต เราจำเป็นต้องเคลื่อนที่ เคลื่อนไหวยืด-หดกล้ามเนื้อ หัวใจต้องได้ออกแรงสูบฉีดเลือด
ดังนั้นเราก็ต้องเคลื่อนที่มีกิจกรรมทางกายกันให้มากขึ้น ซึ่งก็ทำได้หลายวิธี ขอยกมา 3-4 วิธีเรียงตามลำดับความง่ายขึ้นไป
วิธีแรกและง่ายที่สุดคือ ลุกขึ้นยืนและเดินให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เวลาพูดโทรศัพท์ แทนที่จะนั่งก็ยืนเสีย ยิ่งเป็นโทรศัพท์มือถือก็ควรจะเดินไปพูดไปเลย เวลาพักกลางวันก็เดินไปกินอาหาร อย่าขับรถไป เลือกสถานที่ที่ต้องเดินไกลที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวย ขึ้น-ลงอาคารไม่เกินห้าชั้น ใช้บันไดดีกว่าลิฟท์ หรือแม้แต่ในท่านั่ง ลองนั่งบนลูกบอลออกกำลังกายตามภาพ ซึ่งหาได้ไม่ยากไม่แพง ความจริงมีคนออกแบบโต๊ะทำงานที่สามารถออกกำลังขาแบบปั่นจักรยานได้ แต่คงหามาใช้ยาก


วิธีที่สองคือ ลดเวลาการนั่งดูโทรทัศน์หรือเล่นเกม/เล่นเฟสบุ๊คลงให้มากที่สุด แล้วแทนที่ด้วยการบริหารร่างกาย เช่น โยคะ แต่ถ้าติดรายการโทรทัศน์ เช่น คุณชายรูปหล่อในละครภาคค่ำ ชนิดขาดไม่ได้ ก็เลือกวิธีหรือท่าการบริหารร่างกายที่สามารถดูโทรทัศน์ไปด้วยพร้อมกัน เช่น ยืนบริหารด้วยดัมเบลล์ ท่าโยคะหรือพีลาทีสบางท่า แม้แต่ท่าการยืดเหยียดส่วนใหญ่ก็ทำไปพร้อมกับการดูโทรทัศน์ได้
วิธีที่สามคือ เดินและขี่จักรยานไปทำงาน ในระยะ 1 กิโลเมตรนั้นเดินได้แน่ ส่วนขี่จักรยานนั้น ในระยะห้ากิโลเมตรขี่ได้แน่ ความจริงถึงที่พักกับที่ทำงานอยู่ห่างกันไกลกว่านั้น ก็ยังขี่ได้ เรายังอาจเดินหรือขี่จักรยานผสมกับการใช้รถไฟฟ้า รถไฟ หรือรถประจำทางได้ด้วย ลองดูแล้วจะพบว่าไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิด
และวิธีที่สี่คือ สมัครเป็นสมาชิกสโมสรกีฬา เข้าร่วมทีมหรือหาคู่หูเล่นกีฬาตามถนัดตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบดมินตัน เทนนิส ปิงปอง กอล์ฟ ฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ วิธีนี้จะทำให้คุณมีวินัย ได้ออกกำลังกายแน่ๆ เพราะมีนัดหมายกับเพื่อนไปทำพร้อมๆ กัน ไม่เช่นนั้นก็หาครูฝึกมาช่วยคุณเป็นการเฉพาะ ซึ่งคุณก็บอกตัวเองให้ไปเพราะจ่ายเงินไปแล้ว
![]() |
![]() |
อย่าลืมว่าเรามีร่างกายเพียงร่างเดียว ชีวิตเดียว เคารพมันดูแลมันให้ดีที่สุด เคลื่อนที่อยู่เสมอ แล้วคุณจะลดทุกข์ไปได้อีกมากจากการมีสุขภาพดี !!!!
กวิน ชุติมา
กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
ที่มาของภาพประกอบบทความ dealinone.com/ drcarebear.exteen.com / kmnha.nha.co.th
ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย



