Home / ข่าวและกิจกรรม / ข่าวสาร / ความคืบหน้าการขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขัง (พฤศจิกายน ๒๕๕๘)

ความคืบหน้าการขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขัง (พฤศจิกายน ๒๕๕๘)

ความคืบหน้าการขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขัง (พฤศจิกายน ๒๕๕๘)

พันธมิตรองค์กรที่ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขังมาตั้งแต่หลังจากเหตุการณ์คนเมาขับรถชนนักจักรยานเสียชีวิตสามคนที่เชียงใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

การประชุมครั้งนี้นอกจากผู้แทนจาก สสส. มูลนิธิเมาไม่ขับ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน(ศวปถ.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ(สคอ.) และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ซึ่งมีคุณกวิน ชุติมา กรรมการชมรมฯ เป็นผู้แทนแล้ว ที่ประชุมยังได้รับเกียรติจากนายจิตรกร พัฒนาศิริ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๖ มาร่วมให้ข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ยิ่งอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าที่น่าสนใจในการขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขังนั้น  ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำเรื่องส่งกระทรวงยุติธรรมส่งต่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา พร้อมๆกับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายที่ได้ส่งเรื่องไปที่คณะรัฐมนตรีในแนวทางเดียวกัน โดยมีประเด็น ๒ ประเด็นเกี่ยวข้องกับการดื่มสุราแล้วขับรถคือ (๑) ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งขอให้ศาลตัดสินลงโทษตามกฎหมายทันทีโดยไม่รอลงอาญาในกรณีที่เมาแล้วขับรถก่อเหตุ และ (๒) ให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับรถทุกคนทันทีเมื่อเกิดเหตุ  ทั้งสองมาตรการนี้ดำเนินการได้ทันที   ทางศาลยังมีแนวทางว่าต่อไปจะพยายามให้คดีเมาขับสิ้นสุดในขั้นศาลอุทธรณ์ และการผลักดันคดีไปถึงขั้นศาลฎีกาทำได้ยากขึ้น เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นในเวลาสั้นลง (ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ได้ใช้แนวทางนี้อยู่แล้ว)  ดังนั้นในปี ๒๕๕๙ จะมีกระบวนการทางวิชาการในระดับศาลอุทธรณ์ในทำนองเดียวกับที่สำนักงานศาลฎีกาได้จัดหารือในเรื่องเมาขับนี้ในระดับศาลฎีกาในปี ๒๕๕๘   ในเรื่องนี้ผู้พิพากษาจิตรกรเสริมว่าให้เข้าพบประธานศาลอุทธรณ์ และในทางปฏิบัติให้เริ่มจากศาลภาคใดภาคหนึ่งก่อนให้เกิดผลจริงจัง แล้วค่อยขยายผลออกไป   ความจริงคดีเมาขับควรดำเนินการให้ยุติในศาลชั้นต้น จำเลยจะอุทธรณ์ได้ก็ต่อเมื่อลงโทษหนักเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ให้หารือกับอัยการเป็นแนวทางปฏิบัติว่า หากศาลชั้นต้นตัดสินให้รอลงอาญา อัยการต้องอุทธรณ์เสมอ

ส่วนการแก้ไขกฎหมายซึ่งต้องดำเนินการโดยรัฐสภาและเป็นมาตรการระยะยาวนั้น นายสุจินต์ ชื่อสุวรรณ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้เสนอให้ “ปลดล็อก” แก้ไขมาตรา ๔๓ ให้การพิจารณาความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเมาแล้วขับรถแยกกันตามกรรมแต่ละความผิดที่ก่อขึ้นและลงโทษผู้กระทำตามแต่ละนั้น แทนที่จะนำมารวมเป็นกรรมเดียว(เสมือนมีความผิดเดียว)และลงโทษในฐานความผิดเดียวอย่างที่มักทำในปัจจุบัน

(ซ้ายไปขวา) ผู้พิพากษาจิตรกร พัฒนาศิริ, นพ.แท้จริง ศิริพานิช (เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ) และผู้แทน สสส.

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาบางท่านในศาลจังหวัดนนทบุรี ตราด และกำแพงเพชร เคยใช้แนวทางนำมาตรการกักขังมาใช้ นั่นคือในเบื้องต้นไม่ให้ผู้ประกันผิดประกันตัว กักขังไว้ทันที ๓-๕ วัน อย่างท่านจิตรกรเมื่อครั้งเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนนทบุรีใช้แนวทางนี้ทั้งหมด ในช่วงเทศกาลที่มีคดีมากวันละกว่าร้อยคดี  ปรากฏว่าได้ผลดี คดีลดลงทันที โดยมีข้อสังเกตเป็นข้อสรุปว่า ผู้กระทำผิดมักไม่เกรงกลัวการจ่ายค่าปรับ แต่กลัวถูกขัง เพราะทำให้เสียอิสรภาพและ “หมดสนุก”(โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล) จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคลากรทางการแพทย์ ก็พบว่าเห็นด้วยกับมาตรการกักขังนี้  ดังนั้นจึงควรเสนอนายกรัฐมนตรีใช้ ม.๔๔ ให้กักขังผู้เมาแล้วขับทุกรายที่ตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน

ที่ประชุมได้หารือกันถึงการรณรงค์ที่จะทำโดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศบาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ขั้นแรกตั้งทีมวิจัยนำโดย ศวปถ. ศึกษาข้อมูลแสดงถึงประสิทธิผลของการกักขังและการลงโทษโดยไม่รอลงอาญา นำมารณรงค์ในช่วง ๑๗-๑๘ ธันวาคม ส่งสารถึงนายกรัฐมนตรีและสังคม โดยจะมีการจัดขี่จักรยานรณรงค์จากกรุงเทพฯไปพัทยาด้วย คาดว่าจะเป็นวันใดวันหนึ่งในช่วง ๒๑-๒๕ ธ.ค.

คุณกวินได้รายงานความคืบหน้าคดีเชียงใหม่ว่า เนื่องจากการไกล่เกลี่ยที่จัดให้โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่มีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมาเป็นประธานเองไม่เป็นผลโจทก์ร่วมกับจำเลยไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายได้  ศาลจึงนัดการพิจารณาคดีไปเป็นเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ให้ทั้งสองฝ่ายไปเตรียมพยานหลักฐานมายืนยันสนับสนุนตัวเลขค่าเสียหายที่จะมีการจ่ายของตน

ท้ายสุด ผู้แทนจาก สคอ. รายงานว่า ที่ สคอ.ดำเนินงานไปก็มีการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน จัดเสวนาวิชาการนำผลมาลงในเว็บไซต์ และผลิตสื่อที่เกี่ยวข้อง และเว็บไซต์ของ สคอ.และศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยทางถนนได้เปิดให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนมาตรการเมาขับปรับขังอีกด้วย

เมื่อมีความคืบหน้าในการขับเคลื่อนมาตรการเมาขับจับขัง เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นของผู้ใช้ถนน รวมทั้งคนเดินเท้าและผู้ใช้จักรยาน ชมรมฯจะติดตามนำมาเสนอต่อไป

รายงานโดย  กวิน ชุติมา

กรรมการ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย

Comments

comments

Check Also

ชมรมฯ ร่วมงาน a day BIKE FEST 2016

7 comments

  1. hey check out my page, one of the hoesttt rappers out now, G'I BIZZY, really sick flow, next best thing hurry and check it out

  2. wake up man. the president could be establishment… um ya think? wht else could he be? oh well he was a dem and we voted for… blah blah blah stuf. you act like you picked the guy. no. you voted on the people the establishment put in front of you. if you havent figured out the racket yet let me fill you in. ITS A ONE PARTY SYSTEM

  3. – Very nice re-brand guys, love the crisp white look (if you couldn’t tell by our own site :] )! Very sparkly!The Pink Floyd shirt is so awesome!

  4. You mean I don’t have to pay for expert advice like this anymore?!

  5. Great video! (I might be biased as I’m the hand model)WebCenter Six is a leap forward in software technology.I’ve worked on the WebCenter line for over 7 years and I am proud of where it is going.Our development team has done a spectacular job!

  6. Please take the time out to vote for my daughter Rateisha Hammond. God has gifted her with hands to beautify. It is her passion, dream and desire to impact the lives of others in a positive way.share  

  7. Wow! This can be one particular of the most beneficial blogs We’ve ever arrive across on this subject. Actually Excellent. I’m also an expert in this topic therefore I can understand your hard work.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น